วันเสาร์ที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

ทดสอบปลายภาคเรียน

ให้นักศึกษาอ่านแล้วตอบคำถามประเด็นต่อไปนี้ (40 คะแนน)
. ความหมายคำว่า กฎหมายรัฐธรรมนูญ  พระราชบัญญัติ  พระราชกำหนด 
   พระราชกฤษฎีกา  เทศบัญญัติ 
            คำตอบ  กฏหมายรัฐธรรมนูญ คือ กฎหมายแม่บท เป็นกฎหมายสูงสุดที่ใช้ในการปกครองประเทศ มีการกำหนดรูปแบบ ระเบียบ โครงสร้าง ตลอดจนแนวทางในการปกครองประเทศ รวมไปถึงการอธิบายความสัมพันธ์ระหว่าง อำนาจรัฐ กับการปฏิบัติตนของประชาชน อย่างเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อให้ประชาชนอยู่ในรัฐอย่างร่มเย็นเป็นสุข โดยการจัดสรรอำนาจต่างๆบนพื้นฐานของความชอบธรรมมีรูปแบบการปกครองโดยให้ความยุติธรรมเสมอกัน เท่าเทียมกัน มีหลักประกันความเป็นพลเมืองแห่งรัฐ และที่สำคัญ คือ กฎหมายรัฐธรรมนูญมีอำนาจบังคับใช้กับบุคคลทุกคน ไม่มีผู้ใดอยู่เหนือกฎหมายรัฐธรรมนูญนี้
                        พระ ราชบัญญัติ คือ กฎหมายที่ใช้เพื่อวางระเบียบบังคับความประพฤติของบุคคลรวมทั้งองค์กรและเจ้าหน้าที่ของรัฐ มีอำนาจบังคับลำดับรองลงมาจาก กฎหมายรัฐธรรมนูญ หรืออาจจะกล่าวได้ว่า พระราชบัญญัติเป็นกฎหมายที่แยกย่อยออกมาจากกฎหมายรัฐธรรมนูญ คือในกฎหมายรัฐธรรมนูญจะประกอบไปด้วยพระราชบัญญัติที่เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ ซึ่งข้อบังคับหรือข้อกำหนดใดๆที่ปรากฏอยู่ในพระราชบัญญัติทุกๆพระราชบัญญัติ จะขัดต่อรัฐธรรมนูญไม่ได้
              พระราชกำหนด คือ กฎหมายที่พระมหากษัตริย์ตราขึ้นเพื่อบังคับใช้ตามคำแนะนำของคณะรัฐมนตรีในกรณีที่มีความจำเป็นเร่งด่วน (ตามที่รัฐธรรมนูญกำหนดไว้) แต่เมื่อตราออกใช้แล้วต้องนำเสนอต่อฝ่ายนิติบัญญัติเพื่อให้ความเห็นชอบในการประกาศใช้พระราชกำหนดนั้นๆตามความเหมาะสม
              พระราชกฤษฎีกา คือ บทบัญญัติแห่งกฎหมายที่พระมหากษัตริย์ทรงตราขึ้นโดยอาศัยอำนาจตามรัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติ หรือพระราชกำหนด เพื่อใช้ในการบริหารราชการแผ่นดิน โดยคำแนะนำของคณะรัฐมนตรี มีศักดิ์ต่ำกว่ารัฐธรรมนูญ พระราชบัญญัติ ประมวลกฎหมาย และพระราชกำหนด
                        เทศบัญญัติ คือ กฎหมายที่เทศบาลกำหนดออกมาเพื่อใช้บังคับในเขตเทศบาล ทั้งนี้อาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 โดยมีผู้เสนอร่างเทศบัญญัติ ได้แก่ นายกเทศมนตรี สมาชิกสภาเทศบาล หรือราษฎรผู้มีสิทธิเลือกตั้งในเขตเทศบาลตามพระราชบัญญัติว่าด้วยการเข้าชื่อเสนอข้อบัญญัติท้องถิ่น พ.ศ. 2542 เพื่อพิจารณาความเห็นชอบ
. กฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่ใช้ในการปกครองประเทศ ปัจจุบันเป็นอย่างไร        
   ในการกำหนดออกกฎหมายสิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุดของการประกาศใช้
   เป็นอย่างไร หากเราไม่มีรัฐธรรมนูญนักศึกษาคิดว่าจะเป็นอย่างไร อธิบาย
            คำตอบ  กฎหมายรัฐธรรมนูญ ที่ใช้ในการปกครองประเทศ ปัจจุบันเป็นไปในลักษณะที่มีการพยายามปรับแก้ไขเพื่อให้เกิดประโยชน์แก่กลุ่มบุคคลใดบุคคลหนึ่งมากขึ้น ซึ่งเกิดจากปัญหาที่มีการแบ่งพรรคแบ่งพวกกันทางการเมือง และที่สำคัญคือ เกิดจากปัญหาทางการเมืองที่มีมายาวนาน
                        ในการกำหนดออกกฎหมายสิ่งที่ต้องคำนึงถึงมากที่สุดของการประกาศใช้ ก็คือจะต้องเป็นไปเพื่อประโยชน์ของคนส่วนใหญ่และเป็นไปเพื่อรักษาสิทธิและเสรีภาพของประชาชน โดยไม่คำนึงถึงผลประโยชน์ของตนเองเป็นใหญ่
                        หากเราไม่มีรัฐธรรมนูญในการปกครองประเทศก็จะทำให้ประเทศของเราเกิดความขัดแย้ง วุ่นวาย และไม่มีแนวทางในการปฏิบัติตนที่ถูกที่ควร อันจะส่งผลไปสู่การเกิดความขัดแย้งต่างๆของคนในประเทศ ทำให้เกิดความไม่สงบสุขและเกิดความเสียหายต่อประเทศชาติในทุกๆด้าน
.ในสภาพปัจจุบันการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 112 มีนักวิชาการต้องการจะ
   แก้ไขท่านคิดว่าควรที่จะแก้ไขหรือไม่ประเด็นใดอธิบายให้เหตุผล
            คำตอบ โดยส่วนตัวแล้วข้าพเจ้าคิดว่าไม่สมควรแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 112 ด้วยเหตุผลเพราะว่าในปัจจุบันนี้ประเทศไทยเกิดการแบ่งพรรคแบ่งพวก คิดหวังเอาแต่ประโยชน์ส่วนตนมากกว่าผลประโยชน์ของประเทศชาติ มุ่งหวังแต่อำนาจและเงินทอง โดยไม่สนใจสถาบันพระมหากษัตริย์ ซึ่งสังเกตได้จากที่ผ่านมาแม้ว่าจะมีรัฐธรรมนูญมาตรา 112 นี้ก็ยังมีบุคคลที่มีพฤติกรรมหมิ่นพระบรมเดชานุภาพของสถาบันพระมหากษัตริย์อยู่แล้ว หากมีการแก้ไขมาตราที่ 112 นี้อีกต่อไปประเทศไทยของเราก็อาจจะมีโอกาสสูญเสียระบอบการปกครองแบบประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์เป็นประมุข ซึ่งอันที่จริงแล้วเราจะเห็นได้ว่าคนไทยทุกคนย่อมมีสิทธิในการปกป้องและคุ้มครองตนเอง แต่เราคนไทยทุกคนก็ควรจะมีความเคารพและศรัทธาในพระองค์ไม่ใช่คอยหาช่องโหว่เพื่อล้มล้างพระองค์เช่นนี้ หากเราทุกคนยังไม่มีความมั่นใจในความรักและความหวังดีที่พระองค์มีต่อปวงชนชาวไทย ก็ให้หวนกลับมาคิดว่า รัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทยของเรานั้นใช้ปกครองประเทศมาตั้งแต่สมัยบรรพบุรุษ แต่ก็ไม่เคยปรากฏว่าพระองค์จะเอาเปรียบประชาชนของพระองค์ในประเด็นไหน มีแต่ประชาชนของพระองค์ที่ไม่มีความจงรักภักดีต่อพระองค์เท่านั้นที่ต้องการจะแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 112 นี้เพื่อให้เป็นช่องโหว่ในการกระทำผิดของตนเอง
            แต่ทั้งนี้การที่มีกลุ่มบุคคลออกมาแสดงถึงเจตนารมณ์ของตนเองในการเรียกร้องให้มีการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 112 ดังกล่าวก็ไม่ใช่พฤติกรรมที่ผิด เพราะพวกเขาย่อมมีสิทธิและเสรีภาพในการแสดงความคิดเห็นและเรียกร้องสิ่งที่พวกเขาต้องการ แต่สิ่งที่พวกเขาเรียกร้องนั้นจะต้องผ่านการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนในเหตุและผลของความเป็นไปได้ และมีการชี้แจงให้เหตุผลให้บุคคลเหล่านั้นเข้าใจโดยทั่วกัน
. กรณีเกิดความขัดแย้งระหว่างเพื่อนบ้านเรื่องชายแดนระหว่างไทยกับ
   กัมพูชาที่เป็นกรณีพิพากขึ้นศาลโลกเรื่องดินแดนท่านเป็นคนไทยคนหนึ่ง
   มองปัญหานี้อย่างไร และจะมีวิธีการแก้ไขอย่างไรเพื่อมิให้ไทยต้องเสียดิน
  แดน
            คำตอบ ในฐานะที่ข้าพเจ้าเป็นคนไทยคนหนึ่ง ข้าพเจ้ามองว่าปัญหานี้เป็นปัญหาที่ยิ่งใหญ่และมีความสำคัญมากต่อคนไทยทุกคน เพราะปัญหานี้อาจจะทำให้ประเทศไทยของเราต้องสูญเสียดินแดนที่บรรพบุรุษของเราต้อสู้ และเสียสละเลือดเนื้อเข้าแลกไว้ เราทุกคนที่เป็นคนไทยจึงควรตระหนักถึงความดีงามและความกล้าหาญของบรรพบุรุษของเรา ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะทำให้เราทุกคนเกิดความรู้สึกรักและหวงแหนในดินแดนที่เป็นของประเทศไทยของเรามากขึ้น ถึงแม้ว่าดินแดนนั้นจะเป็นดินแดนที่น้อยนิดก็ตาม
                        สำหรับข้าพเจ้าก็มีวิธีการในการแก้ไขปัญหานี้ก็คือ การอาศัยอำนาจแห่งรัฐธรรมนูญแห่งราชอาณาจักรไทย ในการออกความคิดเห็นและแสดงให้เห็นถึงสิทธิและเสรีภาพในการออกความคิดเห็นและวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับเรื่องต่างๆ โดยจัดให้มีการลงประชามติ ให้คนส่วนใหญ่ได้ลงชื่อเพื่อเป็นการรวบรวมกำลังและความคิดเห็น เพื่อเป็นพลังในการต่อสู้เกี่ยวกับกรณีพิพาทดังกล่าว และที่สำคัญคือ เพื่อรักษาดินแดนที่เป็นของประเมศไทยของเราเอาไว้นั่นเอง
. พระราชบัญญัติการศึกษาเปรียบเสมือนรัฐธรรมนูญการศึกษา ท่านเห็นด้วย
   กับประเด็นนี้หรือไม่ อธิบายให้เหตุผล
            คำตอบ เห็นด้วยอย่างยิ่ง เพราะพระราชบัญญัติ ก็คือข้อกำหนด ระเบียบแบบแผนต่างๆที่เกี่ยวกับการศึกษาที่ถูกกำหนดขึ้นอย่างชัดเจนและเป็นลายลักษณ์อักษร เพื่อเป็นการรักษาและคุ้มครองสิทธิและเสรีภาพทางด้านต่างๆของบุคคลหรือบุคลากรทางการศึกษา มีการกำหนดหลักในการปฏิบัติตนและระเบียบกฎเกณฑ์ในการปฏิบัติงานของบุคคลที่มีความเกี่ยวข้องกับการศึกษา ดังนั้นจึงกล่าวได้ว่าพระราชบัญญัติการศึกษาเปรียบเสมือนรัฐธรรมนูญการศึกษา ที่เป็นเครื่องชี้ทางปฏิบัติให้เกิดความสงบเรียบร้อยในบริหาร จัดการและดำเนินงานที่เกี่ยวกับการศึกษา เป็นบทบัญญัติที่ทุกคนในแวดวงการศึกษารับรู้และรับทราบโดยทั่วกัน และที่สำคัญคือ ทุกคนในแวดวงการศึกษาต้องปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด
. ตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ ขอให้นักศึกษาให้ความหมาย การศึกษา  การศึกษาขั้นพื้นฐาน  การศึกษาตลอดชีวิต  การศึกษาในระบบ   การศึกษานอกระบบ  การศึกษาตามอัธยาศัย  สถานศึกษา  สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน  มาตรฐานการศึกษา  การประกันคุณภาพภายใน  การประกันคุณภาพภายนอก  ผู้สอน  ครู  คณาจารย์  ผู้บริหารการศึกษา  ผู้บริหารสถานศึกษา  บุคลากรทางการศึกษาสถานศึกษา
            คำตอบ  การศึกษา คือ กระบวนการเรียนรู้เพื่อความเจริญงอกงามของบุคคลและสังคมโดยการถ่ายทอดความรู้การฝึก การอบรม การสืบสานทางวัฒนธรรม การสร้างสรรค์จรรโลงความก้าวหน้าทางวิชาการ การสร้างองค์ความรู้อันเกิดจากการจัดสภาพแวดล้อม สังคม การเรียนรู้และปัจจัยเกื้อหนุนให้บุคคลเรียนรู้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
                        การศึกษาขั้นพื้นฐาน คือ การศึกษาก่อนระดับอุดมศึกษา
                        การศึกษาตลอดชีวิต คือ การศึกษาที่เกิดจากการผสมผสานระหว่างการศึกษาในระบบ การศึกษานอกระบบและการศึกษาตามอัธยาศัย เพื่อให้สามารถพัฒนาคุณภาพชีวิตได้อย่างต่อเนื่องตลอดชีวิต
                        การศึกษาในระบบ คือ เป็นการศึกษาที่กำหนดจุดมุ่งหมาย วิธีการศึกษา หลักสูตรระยะเวลาของการศึกษา การวัดและประเมินผล ซึ่งเป็นเงื่อนไขของการสำเร็จการศึกษาที่แน่นอน
                        การศึกษานอกระบบ คือ เป็นการศึกษาที่มีความยืดหยุ่นในการกำหนดจุดมุ่งหมายรูปแบบ วิธีการจัดการศึกษา ระยะเวลาของการศึกษา การวัดและประเมินผล ซึ่งเป็นเงื่อนไขสำคัญของการสำเร็จการศึกษา โดยเนื้อหาและหลักสูตรจะต้องมีความเหมาะสมและสอดคล้องกับสภาพปัญหาและความต้องการของบุคคลแต่ละกลุ่ม
                        การศึกษาตามอัธยาศัย คือ เป็นการศึกษาที่ให้ผู้เรียนได้เรียนรู้ด้วยตนเองตามความสนใจ ศักยภาพ ความพร้อม และโอกาส โดยศึกษาจากบุคคล ประสบการณ์สังคม สภาพแวดล้อม สื่อหรือแหล่งความรู้อื่น ๆ
                        สถานศึกษา คือ สถานพัฒนาเด็กปฐมวัย โรงเรียน ศูนย์การเรียน วิทยาลัยสถาบัน มหาวิทยาลัย หน่วยงานการศึกษาหรือหน่วยงานอื่นของรัฐหรือของเอกชน ที่มีอำนาจหน้าที่หรือมี
วัตถุประสงค์ในการจัดการศึกษา
                        สถานศึกษาขั้นพื้นฐาน คือ สถานศึกษาที่จัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน
                        มาตรฐานการศึกษา คือ ข้อกำหนดเกี่ยวกับคุณลักษณะ คุณภาพ ที่พึงประสงค์และมาตรฐานที่ต้องการให้เกิดขึ้นในสถานศึกษาทุกแห่ง และเพื่อใช้เป็นหลักในการเทียบเคียงสำหรับการส่งเสริมและกำกับดูแล การตรวจสอบ การประเมินผล และการประกันคุณภาพทางการศึกษา
                        การประกันคุณภาพภายใน  คือ การประเมินผลและการติดตามตรวจสอบ
คุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาจากภายใน โดยบุคลากรของสถานศึกษานั้นเอง หรือโดยหน่วยงานต้นสังกัดที่มีหน้าที่กำกับดูแลสถานศึกษานั้น
                        การประกันคุณภาพภายนอก  คือ การประเมินผลและการติดตามตรวจสอบคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษาจากภายนอก โดยสำนักงานรับรองมาตรฐานและประเมินคุณภาพการศึกษาหรือบุคคลหรือหน่วยงานภายนอกที่สำนักงานดังกล่าวรับรอง เพื่อเป็นการประกันคุณภาพและให้มีการพัฒนาคุณภาพและมาตรฐานการศึกษาของสถานศึกษา
                        ผู้สอน  คือ ครูและคณาจารย์ในสถานศึกษาระดับต่าง ๆ
                        ครู  คือ บุคลากรวิชาชีพซึ่งทำหน้าที่หลักทางด้านการเรียนการสอนและการส่งเสริมการเรียนรู้ของผู้เรียนด้วยวิธีการต่าง ๆ ในสถานศึกษาทั้งของรัฐและเอกชน
                        คณาจารย์  คือ บุคลากรซึ่งทำหน้าที่หลักทางด้านการสอนและการวิจัยในสถานศึกษาระดับอุดมศึกษาระดับปริญญาของรัฐและเอกชน
                        ผู้บริหารการศึกษา คือ บุคลากรวิชาชีพที่รับผิดชอบการบริหารการศึกษา
นอกสถานศึกษาตั้งแต่ระดับเขตพื้นที่การศึกษาขึ้นไป
                        ผู้บริหารสถานศึกษา  คือ บุคลากรวิชาชีพที่รับผิดชอบการบริหาร
สถานศึกษาแต่ละแห่ง ทั้งของรัฐและเอกชน
                        บุคลากรทางการศึกษา คือ ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษารวมทั้งผู้สนับสนุนการศึกษาซึ่งเป็นผู้ทำหน้าที่ให้บริการ หรือปฏิบัติงานเกี่ยวเนื่องกับการจัดกระบวนการเรียนการสอน การนิเทศ และการบริหารการศึกษาในหน่วยงานการศึกษาต่าง ๆ
.ในการจัดการศึกษานักศึกษาคิดว่ามีความมุ่งหมายและหลักการจัดการใน
   การจัดการศึกษา อย่างไร
            คำตอบ ในการจัดการศึกษาตามพระราชบัญญัติการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ ที่กล่าวไว้ในมาตราที่ ๘ ที่ว่าด้วยหลักในการจัดการศึกษาที่สามารถกล่าวโดยสรุปได้ว่า การจัดการศึกษาจะเป็นเป็นการศึกษาที่จัดให้ตลอดชีวิตสำหรับประชาชนทุกคน โดยในการจัดการศึกษานั้นจะต้องมีการเปิดโอกาสให้ให้สังคมเข้ามามีส่วนร่วมในการจัดการศึกษา และจะต้องมีการพัฒนาสาระและกระบวนการในการจัดการเรียนและการเรียนรู้ให้เป็นไปอย่างต่อเนื่อง
. มีบุคคลหนึ่งเข้าไปเป็นครูสอนหนังสือในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานอยู่เป็น
   ประจำกรณีมิได้รับการบรรจุเป็นครู หากพิจารณาตามกฎหมายถ้าผิด
   กฎหมายท่านคิดว่าจะถูกลงโทษอย่างไร   หากไม่ผิดกฎหมายท่านคิดว่าจะ
   มีวิธีการทำอย่างไร
            คำตอบ หากพิจารณาตามกฎหมาย หากมีบุคคลหนึ่งเข้าไปเป็นครูสอนหนังสือในสถานศึกษาขั้นพื้นฐานอยู่เป็นประจำกรณีมิได้รับการบรรจุเป็นครูจะต้องถูกระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปี หรือปรับไม่เกินสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
                        ขณะเดียวกันกรณีแบบนี้จะไม่ผิดกฎหมาย แต่จะต้องดำเนินการขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพควบคุม ตามคุณสมบัติที่กำหนดไว้และจะต้องเป็นผู้ที่ไม่มีลักษณะต้องห้าม ดังต่อไปนี้ คือ จะต้องเป็นผู้ที่มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ มีวุฒิปริญญาทางการศึกษา หรือเทียบเท่า หรือมีคุณวุฒิอื่นที่คุรุสภารับรอง ผ่านการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาตามหลักสูตรปริญญาทางการศึกษาเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปี และผ่านเกณฑ์การประเมินปฏิบัติการสอนตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการคุรุสภากำหนด และจะต้องไม่เป็นผู้มีความประพฤติเสื่อมเสียหรือบกพร่องในศีลธรรมอันดี ไม่เป็นเป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ ไม่เคยต้องโทษจำคุกในคดีที่คุรุสภาเห็นว่าอาจนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ
. หากนักศึกษาต้องการสอบบรรจุเป็นครูผู้ช่วยจะต้องมีคุณสมบัติอย่างไร
            คำตอบ หากต้องการสอบบรรจุเป็นครูผู้ช่วยจะต้องเป็นผู้ที่มีคุณสมบัติตามมาตรา ๔๔ ที่เกี่ยวกับคุณสมบัติของผู้ขอรับใบอนุญาตเป็นผู้ประกอบวิชาชีพควบคุม ซึ่งสามารถกล่าวโดยสรุปได้ คือเป็นผู้ที่มีอายุไม่ต่ำกว่ายี่สิบปีบริบูรณ์ มีวุฒิปริญญาทางการศึกษา หรือเทียบเท่า หรือมีคุณวุฒิอื่นที่คุรุสภารับรอง ผ่านการปฏิบัติการสอนในสถานศึกษาตามหลักสูตรปริญญาทางการศึกษาเป็นเวลาไม่น้อยกว่าหนึ่งปี และผ่านเกณฑ์การประเมินปฏิบัติการสอนตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่คณะกรรมการคุรุสภากำหนด และที่สำคัญ คือจะต้องไม่มีลักษณะต้องห้ามดังต่อไปนี้ คือ เป็นผู้มีความประพฤติเสื่อมเสียหรือบกพร่องในศีลธรรมอันดี เป็นคนไร้ความสามารถหรือคนเสมือนไร้ความสามารถ หรือเคยต้องโทษจำคุกในคดีที่คุรุสภาเห็นว่าอาจนำมาซึ่งความเสื่อมเสียเกียรติศักดิ์แห่งวิชาชีพ
๑๐. ให้นักศึกษาแสดงความคิดเห็นว่าเมื่อเรียนวิชานี้ นักศึกษาได้อะไรบ้าง
     ครูผู้สอนวิชาชีพโดยใช้เทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ Weblog มีความเหมาะสม
     และเป็นไปได้อย่างไร  วิจารณ์แสดงความคิดเห็น และถ้าจะให้น้ำหนัก
     วิชานี้ ควรให้เกรดอะไร  และนักศึกษาคิดว่าตนเองจะได้เกรดอะไร
            คำตอบ  สำหรับข้าพเจ้าเมื่อได้เรียนวิชานี้ทำให้ข้าพเจ้าเกิดการเปลี่ยนแปลงความคิดและทัศนคติที่เกี่ยวกับเรื่องของกฎหมาย เพราะก่อนเรียนวิชานี้ข้าพเจ้าเป็นคนที่โดยส่วนตัวแล้วจะไม่ชอบเรื่องที่เกี่ยวกับกฎหมาย หรือเรื่องที่เกี่ยวกับเหตุการณ์บ้านเมือง เพราะคิดว่าเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก ซับซ้อนและไม่น่าสนใจ แต่เมื่อได้เรียนวิชานี้ก็ทำให้ข้าพเจ้ามีความรู้และความเข้าใจเกี่ยวกับเรื่องของกฎหมายมากขึ้น ทำให้ข้าพเจ้าเกิดความตระหนักในความสำคัญของการเรียนรู้กฎหมายเพื่อปกป้องและรักษาสิทธิและผลประโยชน์ในด้านต่างๆของตัวข้าพเจ้าเอง ยิ่งความหวังของตัวข้าพเจ้าคือการประกอบอาชีพครูในอนาคตด้วยแล้ว ข้าพเจ้าก็ยิ่งต้องมีความรู้ความเข้าใจที่เกี่ยวกับกฎหมายต่างๆ รวมถึงกฎหมายทางด้านการจัดการศึกษาเพื่อที่ข้าพเจ้าจะได้ประพฤติปฏิบัติตนได้อย่างถูกต้องตามกฎหมายนั้นๆ จึงทำให้ข้าพเจ้าเกิดความสนใจเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายมากขึ้น
                        และจากการเรียนวิชานี้ซึ่งครูผู้สอนมีการนำเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ Webbog มาประยุกต์ใช้ในการสอนด้วยแล้ว ก็ยิ่งเป็นแรงจูงใจให้ข้าพเจ้าเกิดความสนุกและกระตือรือร้นในการเรียนรู้เรื่องกฎหมาย เพราะข้าพเจ้าสามารถเรียนรู้ได้ด้วยตนเองอย่างสะดวกสบาย ข้าพเจ้าสามารถเรียนรู้ได้ทุกที่ทุกเวลาที่ข้าพเจ้าต้องการโดยไม่จำเป็นจะต้องพกพาหนังสือที่เกี่ยวกับ
กฎหมายเล่มใหญ่ๆหนักๆให้เสียเวลา แต่ข้าพเจ้าสามารถเรียนรู้ได้ง่ายๆผ่านทางอินเตอร์เน็ตและคอมพิวเตอร์ที่ข้าพเจ้ามีติดตัวอยู่เสมอ
                        หากจะให้ข้าพเจ้าให้น้ำหนักคะแนนวิชานี้ข้าพเจ้าคิดว่าข้าพเจ้าให้เต็มหนึ่งร้อยคะแนน เพราะวิชานี้เป็นการเรียนรู้ที่สามารถนำสื่อเทคโนโลยีที่ทันสมัยและที่เรานักศึกษาทุกคนรู้จักและคุ้นเคยกันเป็นอย่างดีมาใช้ให้เกิดประโยชน์กับการศึกษา และเป็นการเปิดโอกาสให้ผู้เรียนได้เรียนรู้อย่างเปิดกว้าง ไม่ยึดติดกับแบบแผนหรือวิธีการเรียนรู้แบบเดิมๆ ดังนั้นข้าพเจ้าจึงขอให้คะแนนวิชานี้เป็นเกรด A   และข้าพเจ้าคิดว่าในการเรียนวิชานี้ ข้าพเจ้าควรได้เกรด A เช่นกัน เพราะทุกๆครั้งของการเรียนวิชานี้ข้าพเจ้ามีความกระตือรือร้นที่จะเรียนมาก จะมาเรียนตั้งแต่เช้าและมักจะมาถึงห้องเรียนเป็นคนแรกๆเสมอ และนอกจากนี้ข้าพเจ้าคิดว่าที่ข้าพเจ้าสมควรจะได้เกรด A ก็คือข้าพเจ้าไม่เคยขาดเรียนวิชานี้เลยสักครั้งเดียว และมีความตั้งใจในการทำงานที่เป็นกิจกรรมต่างๆอย่างเต็มที่ด้วยตนเองทุกกิจกรรม ดังนั้นข้าพเจ้าจึงสมควรจะได้เกรด A
                       
                       

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น