ให้นักศึกษาอ่านเนื้อหาแล้วตอบคำถาม
๑. เหตุผลทำไมต้องประกาศพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. ๒๕๔๕
๑. เหตุผลทำไมต้องประกาศพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. ๒๕๔๕
คำตอบ เพราะการศึกษาเป็นกระบวนการหนึ่งที่สำคัญต่อการพัฒนาประเทศ เป็นการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ให้มีคุณภาพ และมีการพัฒนาทั้งทางด้านร่างกาย สติปัญญา ความรู้ คุณธรรม จริยธรรม สังคม อารมณ์และจิตใจในการดำรงชีวิต การศึกษาจึงนับเป็นกระบวนการพื้นฐานในการสร้างและพัฒนาคน ดังนั้นประชากรในประเทศหนึ่งๆจึงควรได้รับสิทธิในการศึกษาอย่างเท่าเทียมกัน เป็นระยะเวลาที่เหมาะสม ดังนั้นจึงต้องมีกฏหมายเฉพาะที่ตราขึ้นโดยมีจุดประสงค์เพื่อให้และสนับสนุนสิทธิทางด้านการศึกษาของเด็กไทย ซึ่งในที่นี้ก็คือ พระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. ๒๕๔๕ ซึ่งเป็นพระราชบัญญัติที่มีบทบัญญัติบางประการที่เกี่ยวกับการจำกัดสิทธิ และเสรีภาพของบุคคล ก็เพื่อให้การจัดการศึกษาของไทยมีประสิทธิภาพและมีความชัดเจนมากยิ่งขึ้น และที่สำคัญก็คือ เพื่อเป็นการส่งเสริมให้ประชาชนคนไทยทุกคนตระหนักและให้ความสำคัญกับการศึกษาของเด็กและเยาวชนไทย เปรียบเสมือนเป็นกฏหมายที่ทุกคนต้องปฏิบัติตาม
๒. ท่านเข้าใจความหมายตามพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. ๒๕๔๕ อย่างไร
คำตอบ พระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ พ.ศ. ๒๕๔๕ เป็นกฎหมายที่บังคับให้ทุกคนเรียนอยู่ในโรงเรียนจนกว่าจะพ้นเกณฑ์ ซึ่งกำหนดตามอายุ หรือระดับการศึกษาที่ได้แสดงไว้ในแผนการศึกษาแห่งชาติ ซึ่งการจัดการศึกษาทุกระดับ และทุกประเภทนั้นจะต้องดำเนินการให้สอดคล้องกับแผนการศึกษาแห่งชาติ แผนพัฒนาการศึกษา แผนพัฒนาเศรษฐกิจและสังคม และนโยบายของรัฐบาล และนอกจากนี้รัฐและเอกชนต่างก็มีส่วนร่วมรับผิดชอบในการจัดการศึกษาให้มีประสิทธิภาพเพื่อช่วยแก้ไขปัญหาของสังคม เพื่อการพัฒนาประเทศ และที่สำคัญคือพัฒนาคุณภาพชีวิตของประชาชนคนไทยทุกคน
ก. ผู้ปกครอง
คำตอบ ผู้ปกครอง หมายความว่า บิดามารดา หรือบิดา หรือมารดา ซึ่งเป็นผู้ใช้อำนาจปกครอง หรือผู้ปกครองตามประมวลกฎหมายแพ่งและพาณิชย์ และหมายความรวมถึงบุคคลที่เด็กอยู่ด้วยเป็นประจำหรือที่เด็กอยู่รับใช้การงาน
ข.
เด็ก
คำตอบ เด็ก หมายความว่า
เด็กซึ่งมีอายุย่างเข้าปีที่เจ็ดจนถึงอายุย่างเข้าปีที่สิบหก
เว้นแต่เด็กที่สอบได้ชั้นปีที่เก้าของการศึกษาภาคบังคับแล้ว
ค.
การศึกษาภาคบังคับ
คำตอบ การศึกษาภาคบังคับ
หมายความว่า
การศึกษาชั้นปีที่หนึ่งถึงชั้นปีที่เก้าของการศึกษาขั้นพื้นฐานตามกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ
ง.
องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
คำตอบ องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น
หมายความว่า องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นที่มีสถานศึกษาอยู่ในสังกัด
๓.
กรณีผู้ปกครองไม่ส่งเข้าเรียนตามที่กฎหหมายฉบับนี้กำหนดจะต้องถูกลงโทษอย่างไร
และถ้าเด็กไม่สามารถเข้ารับการศึกษาใครจะเป็นผู้มีอำนาจในการผ่อนผันเด็กเข้าเรียน
คำตอบ กรณีผู้ปกครองไม่ส่งเข้าเรียนตามที่กฎหหมายฉบับนี้กำหนดจะต้องถูกลงโทษปรับไม่เกินหนึ่งพันบาท
และถ้าเด็กไม่สามารถเข้ารับการศึกษา
ให้สถานศึกษาเป็นผู้มีอำนาจในการผ่อนผันเด็กเข้าเรียน
เมื่อผู้ปกครองร้องขอ
๔. ให้นักศึกษาสรุปประเด็นสำคัญที่ได้จากการอ่านพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ มีทั้งหมด ๒๑ ข้อ
๔. ให้นักศึกษาสรุปประเด็นสำคัญที่ได้จากการอ่านพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ มีทั้งหมด ๒๑ ข้อ
คำตอบ ประเด็นสำคัญที่ได้จากการอ่านพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ
คือ
๑.
อำนาจหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการกำหนดไว้ในกฏหมายพระราชบัญญัติระเบียบบริหารราชการกระทรวงศึกษาธิการ
๒.
อำนาจหน้าที่ของกระทรวงศึกษาธิการ คือ การจัดการศึกษา
๓. การจัดระเบียบกระทรวงศึกษาธิการจัดได้เป็น
3 ส่วนคือ
ระเบียบบริหารราชการส่วนกลาง ระเบียบบริหารราชการเขตพื้นที่การศึกษา
และระเบียบบริหารราชการในสถานศึกษาของรัฐที่จัดการศึกษาระดับปริญญาที่เป็นนิติบุคคล
๔. การกำหนดตำแหน่ง
ลดอัตราเงินเดือน ของข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการ ให้คำนึงถึงคุณวุฒิ ประสบการณ์
และมาตรฐานวิชาชีพ ลักษณะหน้าที่และความรับผิดชอบ รวมถึงคุณภาพของงาน
๕. บทบาทของรัฐมนตรีกระทรวงศึกษาธิการที่จะต้องดำเนินการตามพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับ คือ อำนาจในการออกกฎหมายกระทรวง
ระเบียบและประกาศ และตีความวินิจฉัย
ชี้ขาดปัญหาการปฏิบัติหน้าที่ของผู้ดำรงตำแหน่งและหน่วยงาน
๖. การจัดระเบียบบริหารราชการส่วนกลาง
คือ ส่วนราชการที่ขึ้นตรงต่อรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ สำนักงานรัฐมนตรี
และสำนักเลขาธิการสภาการศึกษา
๗. ส่วนราชการส่วนกลาง
กระทรวงศึกษาธิการที่ไม่เป็นนิติบุคคล คือสำนักงานรัฐมนตรี
๘.
ผู้บังคับบัญชาข้าราชการในกระทรวงศึกษาธิการ คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
ปลัดกระทรวงศึกษาธิการ และเลขาธิการคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
๙.
การประเมินผลการจัดการศึกษาขั้นพื้นฐาน ไม่ใช่อำนาจหน้าที่ของสภาการศึกษา
๑๐.
ประธานคณะกรรมการการสภาการศึกษา คือ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ
๑๑.
คณะกรรมการที่กำหนดตำแหน่งประธานกรรมการไว้ในพระราชบัญญัติการศึกษาภาคบังคับนี้
คือ คณะกรรมการสภาการศึกษา
๑๒.
สำนักงานคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
คือผู้รับผิดชอบงานเลขานุการของคณะกรรมการการศึกษาขั้นพื้นฐาน
๑๓.
เลขาธิการรัฐมนตรี เป็นข้าราชการการเมือง
๑๔.
การติดตาม ประเมินผลนโยบายตามภารกิจ
ไม่ใช่หน้าที่ของผู้ตรวจราชการกระทรวงศึกษาธิการ
๑๕.
หน่วยงานระดับกระทรวงศึกษาธิการ กรมหรือหน่วยงานเทียบเท่ากรม
และสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา เป็นหน่วยงานที่สามารถมีผู้ตรวจราชการได้
๑๖.
การศึกษา วิเคราะห์วิจัย นิเทศติดตามและประเมินผลการบริหารการดำเนินงาน
คือบทบาทของคณะตรวจราชการในระดับสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา
๑๗.
บทบาทของกระทรวงศึกษาธิการที่มีต่อองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น คือ
การประเมินความพร้อมในการจัดการศึกษา เสนอแนะ
การจัดสรรงบประมาณอุดหนุนการจัดการศึกษา และการประสานส่งเสริมการจัดการศึกษา
๑๘.
ในกรณีที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาไม่อาจจัดการศึกษาขั้นพื้นฐานหรือการศึกษาระดับอุดมศึกษา
ระดับกว่าปริญญาตรีได้ จะมีสำนักงานปลัดกระทรวงศึกษาธิการเป็นหน่วยงานที่จะมาจัด
๑๙.
หน่วยงานอื่นสามารถจัดการศึกษา ในรูปแบบการศึกษานอกระบบหรือตามอัธยาศัย
การจัดการศึกษาสำหรับคนที่มีความสามารถพิเศษ
และการจัดการศึกษาสำหรับผู้ที่มีความบกพร่องทางร่างกาย จิตใจ สติปัญญา อารมณ์
สังคม การสื่อสารและการเรียนรู้
หากสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาไม่สามารถจัดการศึกษาได้
๒๐.
ผู้บังคับบัญชาข้าราชการสำนักงานรองรัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ คือ
ปลัดกระทรวงศึกษาธิการและเลขาธิการ
๒๑.
ผู้บังคับบัญชาข้าราชการในสถานศึกษาของรัฐในสังกัดสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
คือ เลขาธิการคณะกรรมการการอาชีวศึกษา
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น